http://www.thailandoutdoor.com
บรรยากาศของตลาดสดยามเช้ากำลังคึกคัก รอบตัวผมเต็มไปด้วยอาหารซึ่งส่วนมากเป็นผักสดและปลา
หลากชนิดที่เป็นผลผลิตจากความอุดมสมบูรณ์ของลำน้ำโขง
ขณะที่ผมพยายามสื่อสารกับแม่ค้าด้วยภาษาที่แตกต่างกัน กล้องตัวเล็กๆที่ดูโบราณที่แขวนขอผมอยู่ไม่
ได้ดึงดูดความสนใจแม้แต่น้อย เธอไม่รู้สึกตัวด้วยซ้ำว่ามีเสียง"คลิ๊ก" เบาๆเมื่อผมกดชัตเตอร์
| |
| "ใครว่าไดโนเสาร์สูญพันธ์ไปแล้ว" นี่คือคำพูดจากเพื่อนผมเมื่อเขาเห็นอุปกรณ์ถ่ายภาพที่ผมใช้ ก็ สมควรอยู่กับที่เขาว่าเพราะท่ามกลางกระแสไฮเทคของกล้อง Auto Focus ที่มีความสามารถมาก มาย จนกระทั่งจะถึงยุคของกล้องไร้ฟิลม์กันอยู่แล้ว ผมยังคงใช้กล้อง Range Finder ที่มีรูปทรง และ Function ใกล้เคียงกับต้นตระกูลของมันที่เกิดมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1954 อยู่ ครับ กล้องที่ผมกำลังพูดถึงคือ Leica M6 |
| |
| กล้องไลก้านั้นถือกำเนิดขึ้นมาพร้อมๆกับฟิล์มขนาด 35มม.ที่เราใช้กันอยู่ทุกวันนี้ตั้แต่ปี 1913-1914 ตลอดเวลา กว่า 80 ปีที่ผ่านมา กล้องไลก้าพัฒนามาเป็นกล้อง Range Finder ที่เปลี่ยนเลนส์ได้เริ่ม จากเลนส์ที่ใช้เกลียวและมาเป็นแบบเขี้ยว ถึงแม้ ไลก้าจะแตกแขนงไปทำกล้อง Single Lense Reflex แข่งกับคนอื่นเพื่อความอยู่รอดตั้งแต่ 1964 แต่การผลิตกล้อง Range Finder ของไลก้าก็ยัง คงดำเนินมาถึงทุกวันนี้ |
| |
| การพัฒนากล้อง Range Finder เป็นไปอย่างรวดเร็วในระยะแรก จนมาถึงจุดอิ่มตัวหลังจากการเปิด ตัวของ M3 อันเป็นกล้องตระกูล M ตัวแรก ในปี 1954 อาจเป็นไปได้ว่าM3เป็นกล้องที่สมบูรณ์ในตัว เองจนวิศวกรของไลก้าหาทางปรับปรุงมันไม่ได้มากนักตลอดเวลาสี่สิบกว่าปีที่ผ่านมา! |
| |
| M6 เป็นตัวแทนของกล้องตระกูลM ในยุคปัจจุบัน มันเป็นกล้องRange Finder ตัวเดียวที่ไลก้ายัง ผลิตอยู่และผมเชื่อว่ามันจะเป็นตัวสุดท้ายของเผ่าพันธ์ที่เกรียงไกรก่อนที่กล้องใช้ฟิล์มจะถูกกลืน ไปด้วยกระแสของกล้อง Digital ในไม่กี่ปีข้างหน้า มันยังคงรูปทรงอมตะของM3 อยู่อย่างไม่เสื่อม คลาย การปรับปรุงจาก M3 ที่พอจะมองเห็นได้ชัดเห็นจะมีเพียง เครื่องวัดแสงผ่านเลนส์แบบ Selective , ทางเลือกที่จะต่อ Widerได้, และช่องมองภาพที่ สามารถ ใช้ได้กับเลนส์มุมกว้างได้ ถึง28มม. (ช่องมองภาพในตัวM3ใช้ได้แค่ 50มม. M2ที่ออกมาตามหลัง M3 ใช้ได้กับเลนส์ 35มม. ต่ำกว่านี้ต้องใช้ Adaptor หรือช่องมองภายนอก) แต่ในขณะเดียวกันมันก็ยังคงรักษาชื่องเสียงใน ด้านคุณภาพและความทนทานของ M3 ไว้เอย่างเหนียวแน่น ช่องมองภาพของ M6 ก็ทำงานในลักษณะเดียวกับ M3 เมื่อใส่เลนส์เขี้ยวที่เลนส์จะไปกดกระเดื่อง ที่ตัวกล้องทำให้กรอบที่ถูกต้องปรากฎขื้นมาเป็นเส้นสีขาวในช่องมองภาพ |
| | |
| ช่องมองภาพของM6 เมื่อใส่เลนส์ 35mmหรือ 135mm. | |
| |
| ด้วยข้อจำกัดของช่องมองภาพทำให้เลนส์ของไลก้า M ถูกจำกัดอยู่ในช่วง 21ม.ม. ถึง135ม.ม. จริงๆแล้วก็นับว่าพอเพียงสำหรับการถ่ายภาพทั่วไป ยกเว้นคนที่ต้องการเลนส์ยาวสำหรับงาน พิเศษ ในช่วงความยาวเลนส์ 21ม.ม.-135ม.ม.นี้ไลก้ามีเลนส์ให้เลือกมากมาย เลนส์ขนาดหนึ่งๆ อาจมีหลายตัวให้เลือกใช้ทั้งรูรับแสงกว้างหรือแคบตามความต้องการ แน่นอนเลนส์ที่มีรูรับแสง กว้างย่อมมีราคาแพงกว่าเลนส์รู้รับแสงแคบ (บางกรณีแพงกว่ากันหลายเท่าตัว) แต่ทั้งนี้มิได้ หมายความว่าเลนส์ที่มีรูรับแสงกว้างจะให้ภาพที่มีคุณภาพดีกว่ากว่าเลนส์รู้รับแสงแคบอย่างที่ หลายๆคนเข้าใจผิดกัน ตามหลักการของไลก้าแล้ว, ถ้าปัจจัยอื่นๆเท่าเทียมกัน, เลนส์ที่มีรู้รับ แสงแคบกลับจะให้คุณภาพๆที่ดีกว่าด้วยซ้ำไป! เพราะฉะนั้นถ้าคุณไม่ได้ต้องการถ่ายภาพในที่ แสงน้อยคุณก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องไปซื้อเลนส์ f-stop กว้างให้เปลืองทรัพย์ไปเปล่าๆ |
| |
| ผมพบว่าเลนส์ไลก้าที่เคยใช้มา ส่วนใหญ่ล้วนแล้วแต่มีคุณภาพ แต่ผมต้องขอออกตัวไว้ก่อนว่า ผมไม่ต้องการเถียงเรื่องคุณภาพเลนส์กับใครว่าตัวไหนคมกว่ากัน ผมเชื่อว่าความคมชัดระดับสุด ยอดไม่ได้ทำให้ภาพธรรมดากลายเป็นภาพที่ดีขึ้นมาได้แต่อย่างใด แต่การเลือกใช้กล้องและเลนส์ ให้เหมาะสมกับรูปแบบการถ่ายภาพของแต่ละคนกลับมีส่วนส่งเสริมได้มากกว่า ข้อดีของกล้อง Range Finder ก็มีอยู่ไม่น้อย รูปร่างที่ไม่สะดุดตาคนทั่วไปและเสียงชัตเตอร์ที่เงียบ กริบ ทำให้มันเหมาะอย่างยิ่งที่จะใช้บันทึกภาพผู้คนในสภาพแวดล้อมจริงๆ ขนาดที่เล็กทั้งกล้อง และเลนส์, น้ำหนักที่เบามันยังเหมาะสมอย่างยิ่งที่จะเป็นเพื่อนเดินทางในกรณีที่ต้องเดินตระเวน ไป การที่มันเป็นRange Finderจึงทำให้ไม่มีปัญหาในการโฟกัสกับเลนส์รูรับแสงแคบในที่มืดแบบ ที่กล้อง SLRเป็น การที่ไม่ทีกระจกสะท้อนภาพทำให้ระยะห่างระหว่างเลนส์กับฟิล์มน้อยลงซึ่งก็มี ผลให้เลนส์มีขาดเล็กกว่าเลนส์ SLRในขนาดเดียวกัน หลายคนอธิบายว่าการทำเลนส์ขนาดเล็ก ย่อมทำได้ดีกว่าเลนส์ชิ้นใหญ่อันนี้ไม่ยืนยันนะครับ นอกจากนี้การมองเห็นสิ่งต่างที่อยู่นอกกรอบ ที่เลนส์บันทึกก็ทำให้เราสามารถเลือกวัตถุมาจัดองค์ประกอบภาพได้ดีขึ้น |
| | |
| ถ้ามองกันถึงความสามารถและฟังก์ชั่นอำนวยความ สะดวกของตัวกล้องแล้ว M6 ไม่สามารถเทียบได้กับ กล้องออโต้โฟกัสสมัยใหม่ได้เลย แต่ใช่หรือไม่ว่าเราชื่น ชอบการถ่ายภาพเพราะต้องการเป็นส่วนหนึ่งในการสร้าง ภาพถ่ายที่ดีขึ้นมา ถ้าคุณเพียงต้องการรูปที่ดีโดยไม่ต้อง คิดต้องทำอะไรก็ไปซื้อรูปที่คนอื่นถ่ายมาเลยดีกว่า ใน กรณีM6ก็มีทุกอย่างเราต้องการอย่างไม่บกพร่อง อะไร นอกเหนือจากนี้ล้วนเป็ความฟุ่มเฟือย | |
| |
| ผมไม่ได้บอกว่าM6เป็นกล้องที่ดีที่สุดสำหรับทุกคน ผมเลือกใช้ M6 เพราะมันทำให้ผมสามารถกลมกลืนเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของ วิถีชีวิตคนที่ผมได้พบเห็นโดยไม่รบกวนสิ่งที่กำลังเนินไปตาม จังหวะชีวิตและทำให้ผมสามารถบันทึกเรื่องราวแท้จริงลงบน ฟิล์มได้ แต่ในขณะที่ผมตามถ่ายภาพกระทิงในป่า M6ย่อมไม่ใช่ตัวเลือก | | |
| |
| ผมนั่งดูภาพที่ถ่ายมาจากตลาดสดในเช้าวันนั้น ในความคิดของผมมันเป็นภาพขาวดำที่เต็มไปชีวิต ชีวา ตัวแบบทุกคนล้วนแล้วแต่กำลังดำเนินชีวิตไปตามจังหวะและลีลาของเขาเอง ผมและไลก้า M6 เป็นเพียงส่วนประกอบหนึ่งในฐานะผู้บันทึกเหตุการณ์เท่านั้น |
| | |
| ตาเกิ้น 24 เมษายน 2542 | |
No comments:
Post a Comment