Friday, March 20, 2009

ความคิดผ่านโฟกัส ประสา ธาดา วาริช

ความคิดผ่านโฟกัส ประสา ธาดา วาริช

ว่ากันว่า ผู้ชาย ในความหมายรวมทั้งร่างกายและจิตใจ เกือบทุกคน ล้วนแล้วแต่มีหนังสือบางประเภทซุกซ่อนอยู่ตามสถานที่ต่างๆ มากมายภายในห้องส่วนตัว มากบ้างน้อยบ้างตามแต่กำลังทรัพย์และกำลังความใฝ่

หนังสือนู้ด หนังสือรวมภาพเปลือย และแน่นอนหนังสือโป๊ คือคำเรียกตามแต่คนจะขานรับ โดยมีจุดร่วมเดียวกันคือ ความเซ็กซี่

แต่ ก็เฉกเช่นเดียวกับวิวัฒนาการของสรรพสิ่ง หนังสือที่รวมภาพเปลือยและกึ่งเปลือย ก็ค่อยๆ พัฒนาและแตกแขนง ไปสู่ความหลากหลายทั้งทางด้านเนื้อหา และรูปแบบของภาพ พร้อมๆ กับการเปิดรับของผู้เสพในระดับที่ขยายวงกว้างขึ้นเรื่อยๆ

ภาพประเภทเซ็กซี่ได้กลายเป็นส่วนสำคัญของงานภาพแฟชั่นไปในที่สุด

ภายใต้ร่มธงของ ความเซ็กซี่ความสำเร็จของความเย้ายวนชวนบรรเจิดทางความรู้สึกนั้น นอก เหนือจากนางแบบ (หรือนายแบบ) ครึ่งหนึ่งในนั้นมาจาก แนวความคิด, ความสามารถ และมุมมองผ่านช่องมองภาพกล้องถ่ายภาพคู่ใจ ของช่างภาพที่จะแปรบุคคลตรงหน้าให้กลายเป็น งานศิลปะ หรืออะไรก็ตามที่อยู่ฝั่งตรงข้ามของเหรียญเดียวกันนั้o

เสน่ห์ของการถ่ายภาพที่ดึงดูดคุณกระทั่งเป็นอาชีพคืออะไร

ต้องย้อนเวลาไปไกลเหมือนกัน เอ่อ....ถ้า ตัดสินใจถ่ายรูปให้เป็นอาชีพนี่ สำหรับตัวเอง ผมว่าเป็นเพราะความขี้เกียจส่วนตัวของผม คือผมดูเหมือนคนขยัน แต่จริงๆ ผมขยันเพราะมันเกิดจากความขี้เกียจก่อน เพราะว่างานถ่ายภาพเป็น....ผมว่าถ้าพูดถึงการใช้เวลาเนี่ย ผมว่างานถ่ายภาพเป็นงานอาร์ตที่ใช้เวลาได้มักง่ายที่สุดแล้ว

ทำไมถึงคิดอย่างนั้นครับ

คุณ ยิงชิกๆ คุณก็ได้รูปแล้ว คุณใช้เวลาแค่ครึ่งนาทีเองนะ คุณก็สร้างงานได้แล้ว ได้งานแล้วก็ได้เงินด้วย แต่ถ้าเทียบกับงานอื่นๆ เนี่ยจะใช้เวลามากกว่ามาก อันนั้นคือสิ่งที่เราคิด เพราะตอนนั้นผมวาดรูปอยู่ด้วย แล้วผมก็มีรายรับเดือนละ 700 บาทจากการวาดรูป อยู่ไม่รอด ก็เลยต้องหาทาง แต่ก็อยากเอาอาชีพที่เราชอบด้วย คือยังไงก็ขอให้เกี่ยวกับ...

ศิลปะนิดนึง?

(พยักหน้า) ใช่

แล้วพอมาเริ่มจับงานนี้อย่างจริงจัง มันชิกๆ อย่างที่คิดไหม

บาง อันก็ชิกๆ อย่างนั้นนะ คือมันแล้วแต่เนื้องานนะครับ ผมบอกไม่ได้ แต่ผมพูดได้ว่าบางงานคือ...เราไม่ได้มีเจตนาจะมักง่ายหรืออะไร แต่มันคือวิธีการทำงานที่...คือมันปึ๊บๆ แค่นั่นแหล่ะ มันพอแล้ว มันเสร็จแล้ว

คิดว่าสไตล์หรือลายเซ็นของช่างภาพแต่ละท่านมีความสำคัญแค่ไหนต่อการทำงาน

ดูกันจริงๆ ผมไม่ค่อยมีนะ เพราะว่ายิ่งถ้าเทียบกับช่างภาพกับประเทศอื่น ผมมองว่าช่างภาพที่นี่ (ประเทศไทย) พวกเก่งๆ มีปริมาณน้อยเกินไปกับตลาด แล้วก็ทำให้ช่างภาพแต่ละคนต้องทำงานแบบไอ้นี่ก็ทำได้ ทำแบบนี้ก็ทำได้ แล้วผมถูกสร้างมาอย่างนั้นด้วย ซึ่งถามว่าชอบไหมก็ ชอบครึ่ง ไม่ชอบครึ่ง ตอนที่ผมเริ่มต้น ผมโดนสร้างมาให้ถ่ายข่าว ถ่ายบ้าน ถ่ายขนม ถ่ายคน ถ่ายทุกอย่าง แต่จริงๆ แล้วถามว่าควรไหม ก็ไม่ค่อยควรนะ

วิธีทำงานของพี่จอร์จ ปกติแล้วจะคิดโครงร่างมาอยู่แล้ว หรือว่ามาได้ไอเดียตอนที่มองผ่าน View Finder ครับ

อืม (นิ่งคิด) ผมว่าคนที่ทำงานแนวพวกนี้ ไม่จำเป็นว่าต้องถ่ายภาพอย่างเดียว ส่วนใหญ่จะมีภาพในหัวนะ แต่มันบางทีมันอธิบายไม่ได้ เพราะบางทีเราจะรับรู้ว่า โอเค เดี๋ยวเราจะต้องถ่ายคนนี้นะ มันก็จะมีรูปคนนี้อยู่ในหัว หรือไอเดียว่าต้องถ่ายประมาณนี้นะ คือมันจะสเก็ตอะไรออกใสไม่ได้เลย มันจะต้องอยู่ในหัวของคนทำงานเท่านั้น

ช่วงเวลาจากตอนแรกที่ต้องถ่ายภาพแบบจับฉ่าย จนมาถึงถ่ายแฟชั่นที่เป็นสไตล์อย่างทุกวันนี้ มันยาวนานแค่ไหน

ปี ที่11 แล้วครับปีนี้ แต่ก็ไม่ได้ปรับปรุงอะไรมากนัก คือยังไงส่วนนึงมันก็ยังเป็นส่วนที่ชอบอยู่ แต่จริงๆ ก็เบื่อแล้ว เบื่อๆ เบื่อมากๆ

เบื่อถ่ายภาพหรือเบื่อถ่ายภาพแบบสไตล์แฟชั่นเซ็กซี่ครับ

เซ็ก ซี่ก็เบื่อนะ ถ้าดูจริงๆ ปีที่ผ่านมา (2548) ผมไม่ได้ถ่ายเซ็กซี่เลยทั้งปี ผมเพิ่งมาเริ่มทำปีนี้อีกทีนึง ผมหยุดไปเลยเพราะผมไม่อยากทำ

From DDT ฉบับที่ 15


No comments:

Post a Comment